ผม "จับ" เอาประโยคต่างๆ มา "ตีความ" ในมุมมองของการค้นหา "วิธีคิด" (Mind Set) หรือ "กระบวนทัศน์" (paradigm) เห็นเป็นดังนี้ครับ
- ท่านมีความเห็นว่า "ควรจะทำโรงเรียนให้เหมือนบ้าน" ท่านบอกว่า เราไม่เคยเบื่อบ้าน เรามีความสุขเมื่อได้อยู่บ้าน ผ่อนคลาย อย่างจะหยิบจะจับอะไรก็หาได้ไม่ลำบาก หากเราสามารถทำให้นักเรียนรู้สึกว่า อยู่โรงเรียนนั้นผ่อนคลายได้เหมือนอยู่ที่บ้าน(ที่อบอุ่น) การสร้างการเรียนรู้อย่างมีความสุขจะเกิดขึ้น
- ท่านเห็นด้วยกับโครงการ "โรงเรียนสุขภาวะ" ที่เน้นโรงเรียนเป็นสุข สิ่งแวดล้อมเป็นสุข ครัวเป็นสุข และชุมชนเป็นสุข (การสร้างเสริมสุขภาวะให้เกิดขึ้นในโรงเรียน ๖ ด้าน ได้แก่ 1.ความสามารถเชิงวิชาการ 2.มีทักษะชีวิต 3.มีทักษะสุขภาพ 4.มีคุณธรรม จริยธรรม 5. มีความเป็นประชาธิปไตย รู้หน้าที่พลเมืองและ 6.รู้สิทธิหน้าที่ปฏิบัติตน เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเสมอภาค) ซึ่งท่านเคยขับเคลื่อนเมื่อครั้งยังเป็นรองผู้อำนวยการอยู่ที่โรงเรียนบูรพาวิทยาคาร แม้ท่านบอกว่าจะนำมาใช้เพียงบางส่วนที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชนบำรุงราษฎร์ที่ผู้ปกครองค่อนข้างจะขัดสนดิ้นรนกับการอยู่ในเมือง
- ผมเห็นท่าทีของท่านชัดเจนว่า กำลังจะขับเคลื่อนโรงเรียนในแนวทางของโรงเรียนวิถีพุทธ และขับเคลื่อนเป็นสถานศึกษาพอเพียง และเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการส่งเสริมและกระตุ้นให้ครูใช้การ "เล่าเรื่อง" หรือ "เรื่องเล่า" หรือ "นิทาน" มาใช้ในการสอน เพื่อส่งเสริมการ "ฟัง" "คิด" และกล้าแสดงออกด้านการ "พูด" .... ผมรับปากท่านทันที เพราะทั้งสามเรื่องนี้ ผมคิดว่าผมช่วยได้ในระดับหนึ่ง
- บริบทของโพธิ์ศรีคล้ายโรงเรียนเทศบาลอื่นๆ คือ นักเรียนส่วนใหญ่มาจากนอกเมือง (๖๐:๔๐) แต่จะต่างไปตรงที่ นักเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่ส่วนใหญ่ผู้ปกครองอยู่ในชุมชนเมืองที่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการค้าขายทำมาหากิน ไม่ค่อยมีเวลาสอนการบ้านลูกมากนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น