วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559

ขับเคลื่อน PLC เทศบาลเมืองมหาสารคาม _๔๑ : PLC เทศบาลบ้านวิทย์น้อย ร.ร. เทศบาลสามัคคีวิทยา

วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ CADL เข้าพื้นที่โรงเรียนเทศบาลสามัคคี ไปร่วมวง PLC เทศบาลบ้านวิทย์น้อย กับคณะครูระดับปฐมวัยจากทั้ง ๗ โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองมหาสารคาม เยี่ยมชมการทำการทดลองบ้านวิทยาศาสตร์น้อย ของโรงเรียนเทศบาลสามัคคี  ครั้งนี้พิเศษตรงที่ ผมได้เชิญ ผศ.ดร.อุฤทธิ์ เจริญอินทร์  นักฟิสิกส์รุ่นใหม่ไฟแรง ไปคุยกับครูและเด็กปฐมวัย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ และอยากฟังความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ตัวจริง เกี่ยวกับกระบวนการปลูกฝังจิตวิทยาศาสตร์ที่เรากำลังขับเคลื่อน



กิจกรรมการทดลองบ้านวิทยาศาสตร์น้อยของโรงเรียนเทศบาลสามัคคี ใช้วีธีจำลองเป็นเหมือน "ฐานการเรียนรู้" ขึ้นในแต่ละห้องเรียน แล้วให้นักเรียน แล้วให้นักเรียนเวียนเข้าไปทำการทดลอง  ซึ่งจัดกระบวนการแบบเต็มวัน ในวันถัดมา (๒๘ พ.ย. ๕๙) ... เสียดาย ที่ผมไม่อาจไปร่วมงานได้ ...

การเยี่ยมการทดลองที่บ้านวิทยาศาสตร์น้อย ที่โรงเรียนเทศบาลสามัคคี มีประเด็นใหม่ ที่ควรนำมาบันทึกไว้ให้นำไปพิจารณา ๒ ประเด็น ได้แก่  ๑) บทบาทของครูกัลยาณมิตรผู้มาเยี่ยม และ ๒) กิจกรรมนั้นเป็นงานประดิษฐ์หรือเป็นการทดลองบ้านวิทยาศาสตร์น้อย

บทบาทของเพื่อนครูผู้มาเยือน

บทบาทของผู้มาเยือนที่คุ้นเคยหรือเคยเห็นกันทั่วไป คือ การเข้าไปสังเกตการณ์การสอนแบบที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปนิเทศเพื่อนครูหรือ เหมือนที่ครูเข้าไปนิเทศนิสิตฝึกสอน ลักษณะการนิเทศแบบนี้ ครูจะจัดโต๊ะเก้าอี้เตรียมให้ผู้มาเยี่ยมเข้าไปนั่งสังเกตและประเมินด้วยเครื่องมือนิเทศต่างๆ

อีกบทบาทหนึ่ง ผู้มาเยือนเป็นเหมือนเพื่อน เป็นกัลยาณมิตรร่วมสอน หรือเข้าไปนั่งสังเกตจดบันทึกสิ่งที่เห็นเพื่อสะท้อนให้ผู้สอนได้พิจารณาว่า บรรยายกาศหรือการตอบสนองของนักเรียนเป็นอย่างไร ซึ่งจะส่งผลให้การพัฒนาการเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

บทบาทของ "ชุมชนเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์" หรือที่เราเรียกว่า PLC ควรจะเป็นแบบอย่างหลัง คือ ครูผู้มาเยือน เข้าไปฟัง สังเกต และเรียนรู้จากครูผู้สอนเจ้าของห้องเรียน และสะท้อน (Reflection) หรือป้อนกลับ (Feedback) ข้อสังเกตหรือสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ให้ครูผู้สอนใช้ในการปรับปรุงการสอนต่อไป

ดังนั้น ในเบื้องต้น ครูผู้มาเยือน ควรจะมีบทบาทเป็นผู้สังเกต โดยไม่ต้องมีการประเมินตัดสินใดๆ แค่เพียงสังเกต บันทึก แลกเปลี่ยนด้วยความหวังดี เอาใจช่วย เชียร์  และเมื่อสังเกตพบว่า บรรยายกาศเป็นไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เกร็ง เครียด ประหม่า เป็นเวลานาน  ครูผู้มาเยือนควรจะเปลี่ยนบทบาทเป็นเพื่อนร่วมสอนทันที เพื่อแลกเปลี่ยนวิธีการที่ได้ผลของตนเองบ้าง  และเมื่อบรรยายกาศดีขึ้น ค่อยคืนบทบาทให้ครู กลับมาเป็นผู้สังเกตตามเดิม








งานประดิษฐ์หรือการทดลองบ้านวิทย์น้อย

กิจกรรมฐานการเรียนรู้ที่ครูเทศบาลสามัคคีพาเด็กๆ ทำ ส่วนใหญ่ก็คล้ายกับการทอลองของโรงเรียนที่ผ่านมา เช่น ลูกข่างหลากสี ความลับของสีดำ สีเต้นระบำ การละลายของน้ำตาล ฯลฯ  แต่มีฐานการเรียนรู้หนึ่งที่เป็นกิจกรรมทำ "ผีเสื้อ" โดยใช้สีน้ำจากหลอดไปประทับบนกระดาษ ก่อนจะพับ และจับตัดคลี่ให้กลายเป็นเหมือนผีเสื้อกำลังบิน  ซึ่งกิจกรรมนี้ไม่มีในการทดลองของบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่แปลมาจากต้นฉบับที่เป็นภาษาเยอรมัน

คำถามนี้  กิจกรรมงานประดิษฐ์ งานศิลปะ หรืองานคหกรรม สามารถนำมาทำเป็นกิจกรรมส่งเสริมหรือปลูกฝังจิตวิทยาศาสตร์ เหมือนการทดลองของโครงการบ้านวิทย์น้อยได้หรือไม่

คำตอบ คือ ต้องพิจารณาว่า กิจกรรมนั้น ทำให้นักเรียนได้ฝึกทักษะทางวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการ ๖ ขั้นตอนที่เรากล่าวถึงหรือไม่  มีการ

  • ทำให้สงสัย
  • ชวนให้คิดหาคำตอบ
  • พาตรวจสอบคำตอบนั้น
  • ให้แบ่งเปันอธิบาย
  • ให้ระบายบันทึก
  • ให้ฝึกสรุปผล
หรือไม่?  ถ้าใช่ ก็ไม่มีปัญหาอะไร สามารถสร้างกิจกรรมหรือการทดลองใหม่ๆ ได้อยู่แล้ว 





  
ขอบคุณ ผอ.พัชรี และคุณครูโรงเรียนสามัคคีทุกท่านครับ ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีเช่นเคยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น