วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

PLC มหาสารคาม : อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ (ขยายผลครูตุ๋ม) _๒. กรณีเด็กชายกร (นามสมมติ)

บันทึกต่อเนื่องจากบันทึกที่ ๑

 ๒) เด็กชายกร (นามสมมติ)


ครู : เด็กชายกรเป็น ๑ ใน ๓ ของนักเรียนที่อ่านไม่ออก จากนักเรียนทั้งหมด ๑๓ คน  อ่านไม่ออก สะกดคำไม่ได้ โดยเฉพาะคำที่มีสระผสม เวลาอ่านออกเสียงพร้อมกัน จะไม่ออกเสียงกับเพื่อน เวลาให้อ่านเดี่ยวก็อ่านเสียงเบามาก  เวลาส่งงานจะรั้งท้ายตลอด บางทีก็ไม่ส่ง ดื้อ มึน ขี้เกียจ พ่อแม่ก็ไม่ดู อยู่กับตายาย บอกยายว่า ไม่มีเคยมีการบ้าน ทั้ง ๆ ที่ครูให้การบ้านทุกวัน 

ในกระบวนการ ๖ ขั้น ที่นำไปใช้ แต่มีข้อจำกัดเรื่องเด็กจิตอาสา เด็กชายกรจะชอบวาดรูปมาก  แต่จะมีปัญหาเรื่องการเขียน ช่วงแรก ๆ จะวาดรูปเยอะ  แต่ตอนหลังพอรู้ว่าจะให้เขียน ก็วาดน้อยลง  หลังจากใช้ไปสักระยะก็ดีขึ้น ได้ผลดีขึ้น จากผลการทดสอบด้วยเครื่องมือของทาง สพป. พบว่าอ่านขึ้นได้มาก

คลิปเล่าเรื่องของคุณครู อยู่ที่นี่ครับ 

ครูตุ๋ม : แนะว่าอย่าเพิ่งให้วาดเยอะ อย่าเพิ่งวางเป้าหมายใหญ่เกินไป ให้วางเป้าหมายเล็ก ๆ สั้น ๆ  วาดแล้วให้เขียนคำให้ ให้เอาไปแปะ เริ่มจาก ๒-๓ คำ ค่อย ๆ ชม และใช้เรื่องเล่าสลับกับการยกย่องให้ความสำคัญ ต้องมีวิธีการดึงความสนใจ

 "...ต้องมีวิธีอ่อย วิธีล่อแหมะค่า เริ่มเต้นอาจซิสองสามคำก่อน และค่อยเพิ่มจำนวนคำขึ้น  เริ่มต้นเลยไม่ต้องให้เขียนอะไรเลย ไม่ต้องให้เขียนคำหรือคัดลายมือใด ๆ เลย  ให้วาดรูปแล้วแปะลงใบบนกระดาษเลย ... ค่อย ๆ ตั้งคำถาม ... มื่อนี่บักหล่าไปใสลูก ไปโถ่งนา ไปตลาดติ ? ... กะให้วาดเลยค่า ... สมจริงไม่สมจริงก็ไม่เป็นไร ... วาดไปตามประสาเลย ให้เขาชอบและสนุกก่อน  ... เมื่อบ่อย ๆ เข้าก็ให้เริ่มใช้คำถาม เช่น บักหล่าไปทะเลเห็นหยังแหน่  ได้กินอาหารทะเลเบาะ  ทะเลงามบ่อ?  เป็นต้น ... แล้วก็ค่อย ๆ ให้ลองแต่งประโยค เช่น ทะเลสวย ฉันกินอาหารทะเล ... คือเอาคำว่าทะเล มาให้คิด  ทีละ ๒ หรือ ๓ ประโยค ... บักหล่าคือเก่งแทะ  เอาไปติดไว่ผนังให้หมู่เมิ่งนำแนะ ... ให้โอกาสเล่าให้เพื่อนฟัง... บักหล่าต่อไปเว่าซื่อ ๆ  มันบ่อค่อยโก้ปันได๋เด้  ให้เขียนนำจั่งซิสุดยอด ....  คือหากุลสโลบายให้ฝึกเขียนด้วยตนเอง...สำคัญคือ ต้องทำให้เขารู้สึกว่า เขาทำได้ ชมเพื่อพัฒนา ไม่มีการลงโทษ..."

ผมเสนอ :  สิ่งที่ครูตุ๋มบอกว่า ต้องทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองทำได้  ตรงกับทฤษฎีทางประสาทวิทยา ที่พบว่า สมองจะมีแนวโน้มที่จะขี้เกียจ หลีกเลี่ยงและหลบหลีกในสิ่งที่ตนเองทำไม่ได้  ดังนั้นการปฏิสัมพันธ์กับเด็กจะต้อง "ไม่เป็นภาระสมอง" เกินไป

ครูตุ๋มเล่าต่อว่า : ที่ ร.ร.บ้านหินลาด มีเด็ก "แฟดนรก" แต่ก่อนไม่เคยยิ้มหรือปฏิสัมพันธ์กับใครเลย ก้าวร้าว ไม่เอาอะไรเลย แต่ชอบวาดรูปเหมือนเด็กชายกร  ตอนนี้เด็กสองคนนี้กลายเป็นคนละคน ยิ้มแย้ม ตอบถามเพื่อนและครู 

ฟังเสียงครูตุ๋มและเสียงผมช่วยกันแนะนำเรื่องนี้ที่นี่ครับ

















ขอบูชาคุณครูเพื่อศิษย์ทุกท่านครับ  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น